World Gold Council รายงานข้อมูล ความต้องการเครื่องประดับทองทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020ลดลงเกือบครึ่งที่อัตราร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 572 ตัน ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุด อันเป็นผลมาจากอุปสงค์เครื่องประดับทองที่ลดลง จากผลกระทบของโควิด 19 และราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ World Gold Council ยังรายงานว่าความต้องการช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ว่าต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยอยู่ที่ 251 ตัน หรือลดลงร้อยละ 53 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุน่าจะมาจากความต้องการเครื่องประดับทองในครึ่งปีแรกของจีนและอินเดียซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกลดต่ำลง จึงส่งผลกระทบอย่างต่อความต้องการของตลาดทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สภาทองคำโลกรายงานว่า ความต้องการเครื่องประดับทองของจีนในไตรมาสที่สองของปีนี้ลดลงร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 90.9 ตัน ส่งผลให้ความต้องการในช่วงครึ่งปีแรกนี้อยู่ที่ 152.2 ตัน หรือลดลงร้อยละ 52 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ครึ่งแรกของปี 2007 เป็นต้นมา ทั้งนี้เนื่องจาก COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี คาดว่าความต้องการเครื่องประดับทองของจีนในไตรมาสที่สองของปีนี้ น่าจะกระเตื้องขึ้นจากไตรมาสก่อนเพราะจีนสามารถควบคุมสถานการณ์ไวรัสได้แล้ว ในขณะที่ความต้องการเครื่องประดับทองในอินเดียลดลงในไตรมาสที่สองของปีนี้ด้วยสาเหตุจากการปิดเมืองและการระบาดของโควิด19 ทั่วทั้งประเทศ ทำให้ความต้องการในช่วงเทศกาลสำคัญหายไป ตลอดจนราคาทองที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ความต้องการเครื่องประดับทองในอินเดียลดลงร้อยละ 74 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 44 ตัน ซึ่งนับว่าเป็นความต้องการรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดเท่าที่เก็บข้อมูลมาในช่วงหลายปี ในส่วนของมูลค่าความต้องการเครื่องประดับทองในช่วงครึ่งปีแรกนี้อยู่ที่ 30,100 ล้านเหรียญสหรัฐนับว่าเป็นมูลค่าที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ซึ่งในเวลานั้นทองคำมีราคาในหน่วยเหรียญสหรัฐเพียงราวร้อยละ 50 ของระดับราคาปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะความต้องการเครื่องประดับทองในช่วงครึ่งปีแรกนี้เหลือเพียง 572 ตัน คิดเป็นราวครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 1,106 ตัน