สินทรัพย์อย่างอัญมณีและเครื่องประดับนั้น นอกจากสวยงามชวนหลงใหลแล้ว ยังสามารถให้ผลตอบแทนการลงทุนที่สูงกว่าสินทรัพย์อื่นๆ โดยเฉพาะการลงทุนในระยะยาว ในปี 2021 นี้บริษัท Estate Diamond Jewelry บริษัทอัญมณีและเครื่องประดับ ได้มีการรวบรวมเครื่องประดับที่น่าลงทุนที่สุด 10 อันดับ (เรียงตามพิกัดศุลกากร 71) ไว้ดังนี้ 1. ไข่มุกธรรมชาติน้ำเค็ม ไข่มุกน้ำเค็มที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นนอกจากความหายากและเสี่ยงอันตรายในการงมหาแล้ว ยังมีเพียง 1 ในหมื่นของหอยมุกในธรรรมชาติที่มีคุณภาพเพียงพอมาทำเครื่องประดับ จึงทำให้ราคาของไข่มุกน้ำเค็มตามธรรมชาติมีราคาสูงกว่าไข่มุกน้ำจืดและไข่มุกเลี้ยง สิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ ควรเลือกเครื่องประดับมุกประเภทนี้ที่เป็นงานของเก่าโบราณและมาจากงานออกแบบของดีไซน์เนอร์มีชื่อ จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไปอีกในอนาคต ข้อมูลจาก www.gemsocierg ระบุว่า ราคาของไข่มุกธรรมชาติน้ำเค็มแพงกว่าไข่มุกเลี้ยงอะโกย่า 10-20 เท่า (ปัจจุบัน สร้อยไข่มุกอะโกย่า ราคาประมาณ 300-10,000 ดอลลาร์สหรัฐ) 2. เพชร Type II 1 เพชรที่ขุดพบส่วนใหญ่ราว 98% ของเพชรทั้งหมดจะมีการเจือปนของมลทินในเพชร ทำให้ถูกจัดในประเภทเพชร Type Ia และ Ib ขณะที่อีก 2% เป็นเพชรที่มีความสะอาดมากกว่า ถูกจัดไว้ในประเภท Type II ที่มีความสะอาดของเพชรสูงมีมลทินน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย โดยราคาของเพชรประเภทนี้จะสูงกว่าเพชร Type I ประมาณ 2-3% ดังนั้น ด้วยความหายากและความสะอาดของเพชร ที่สูงจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการลงทุน 3. เพชรสีแฟนซี เพชรสีนั้นสามารถพบได้ยากกว่าเพชรใสไม่มีสี ในเพชรที่ขุดพบหมื่นเม็ดมีเพชรสีเพียง 1 เม็ดเท่านั้น ขณะที่ราคาเพชรสีขยับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในเอเชียที่มีเทรนด์จากคนรุ่นใหม่ซึ่งต้องการเครื่องประดับที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีรูปแบบและสีสันที่แตกต่างไปจากแบบเดิมๆ เพชรสีจึงตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว โดยสีที่นิยมได้แก่ สีน้ำเงิน สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีชมพู และสีเขียว 4. ทับทิมเมียนมาที่ไม่ผ่านการเผา ทับทิมจากเมียนมา มีคุณภาพดีที่ทั่วโลกให้การยอมรับ เป็นที่ต้องการของนักสะสม มีจุดเด่นที่มีสีแดงสดเสมือนสีของเลือดนกพิราบ ทำให้ทับทิมจากเมียนมามีราคาสูงและหากเป็นทับทิมที่ไม่ผ่านการเผาเพื่อปรับปรุงคุณภาพแล้ว ยิ่งสร้างมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นและเป็นที่ต้องการของตลาดอีกด้วย