World Gold Council หรือสภาทองคำโลก ชี้ความต้องการทองคำในประเทศไทยมียอดซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นทั้งในรูปแบบของทองคำรูปพรรณ ทองคำแท่งและเหรียญ โดยในไตรมาส 3 ช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายน มียอดซื้อสุทธิ 9 ตัน เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มียอดขายสุทธิถึง 44 ตัน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก สภาทองคำโลกวิเคราะห์ว่า ความต้องการทองคำโดยรวมของไทยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ได้แก่ความต้องการซื้อเครื่องประดับทองของผู้บริโภคในประเทศซึ่งอยู่ที่ระดับ 2 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39% นอกจากนี้ ทองคำแท่งและเหรียญทองคำซึ่งเป็นสินค้าประเภททองคำอีกรูปแบบหนึ่งยังได้แรงช้อนซื้อจากนักลงทุนรายย่อยอย่างท่วมท้นถึง 7 ตันเลยทีเดียว ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ประเทศไทยเผชิญกับความผันผวนอย่างมากจากการลดการลงทุนครั้งใหญ่ในปีที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนหันไปถือครองทองคำเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคโควิด-19 และสร้างความได้เปรียบจากราคาทองคำที่สูงขึ้น ต่างจากปีนี้ที่นักลงทุนไทยซื้อทองคำสุทธิ โดยได้แรงหนุนให้เข้าซื้อในช่วงที่ราคาทองคำอ่อนตัว รวมถึงความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่พิทักษ์ความมั่งคั่งและสินทรัพย์ปลอดภัย สภาทองคำโลก ยังประเมินว่าความต้องการทองคำทั่วโลกในช่วงที่เหลือของปีนี้ภาพรวมยังเป็นบวก และจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2565 เนื่องจากนักลงทุนสถาบันจะใช้ทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่นักลงทุนรายย่อยจะเข้าซื้อทองคำมากขึ้นเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว