เครื่องประดับกับสาวเมียนมาร์

การแต่งกายของความเมียนมาร์นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวผู้ชายนิยมนุ่งโสร่งและผู้หญิงนิยมนุ่งผ้าซิ่น เสื้อเอวสั้น สตรีชาวเมียนมาร์ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่รักสวยรักงาม ต้องแต่งกายสวยงามอยู่เสมอ เริ่มตั้งแต่การดูแลเรือนผม การทัดดอกไม้ การแต่งงหน้าทาเล็บ และการประดับด้วนเครื่องประดับทองและอัญมณี ชาวเมียนมาร์ถือว่าเพชรพลอยเป็นสิ่งมงคลอย่างหนึ่งดังคำกล่าวที่ว่า"ทับทิมเกร็ดน้อยมีค่าควรเมือง" ซึ่งอัญมณีแต่ละชนิดมีความหมายดีๆ เช่น ทับทิม หมายถึง บุญญาธิการ และ ความรุ่งโรจน์ มรกต หมายถึงความสงบเย็นและสันติสุข เพชร หมายถึงความสามารถ ไพลิน หมายถึงความเมตตา โกเมน หมายถึง พละกําลัง บุษราคัม หมายถึง พลานามัย ปะการัง หมายถึงความยิ่งใหญ่ มุก หมายถึงสิริมงคล เพชรตาแมว หมายถึงอํานาจและความสําเร็จ นอกจากอัญมณีต่างๆแล้ว สตรีชาวเมียนมาร์ยังนิยมเครื่องประดับทองคํา ทําเป็นกําไล สร้อยคอ ต่างหู ปิ่นปักผม หวีเสียบผม ขณะที่สร้อยคอจะมีหลากหลายลักษณะทั้งแบบที่ประดับตกแต่งด้วยเพชร พลอยสี และไข่มุก โดยในงานพิธีส่วนมากนิยมใส่สร้อยคอที่มีลักษณะระย้า เป็นชั้นๆ เรียงกันหลายเส้น ประดับตกแต่งด้วยอัญมณีขนาด ใหญ่พื่อแสดงถึงความหรูหรา และเหมาะกับชุดประจําชาติที่มักเป็นเสื้อผ่าอกคลุมไหล่ด้วยผ้าคล้องคอหรือเสื้อแขนกระบอกเนื้อบางปักเลื่อมตกแต่งอย่างสวยงาม ต่างหูเป็นเครื่องประดับอีกชิ้นหนึ่งของผู้หญิงเมียนมาร์ในอดีตทั้งชายและหญิงต่างนิยมใส่ต่างหูด้วยถือว่า ช่วยเสริมความสง่างามดังคํากล่าวที่ว่า “แก้มผ่องใส ด้วยประกายต่างหู” ในสมัยก่อนผู้ชายที่มีฐานะดีจะประดับหูด้วยมุก นิล หรือพลอยแดงขนาดเท่าลูกหมาก ส่วนคนทั่วไปจะนิยมใส่ต่างหูทําด้วยหยก แก้ว หรือใบลาน นอกจากนี้นักรบอาจเอาชายโสร่งมามวนเสียบเป็นต่างหู นอกจากเครื่องประดับแล้ว องค์ประกอบของเสื้อผ้ายังอาจประดับตกแต่งด้วยอัญมณีด้วย แต่เดิมเสื้อของสตรีเมียนมาร์จะติดด้วยกระดุมทอง เพชร งาช้าง เปลือกหอย กระดองเต่า หรือกระดุมโยดะยา แต่ในปัจจุบันเสื้อเอวสั้นที่ตัดตามแบบเมียนมาร์ส่วนใหญ่จะใช้กระดุมแป๊ะ หรือกระดุมปั๊มแทนกระดุมที่มีมูลค่าสูง