บนเกาะซาโดะ (Sado Island) ในจังหวัด นิงาตะ(Niigata)คือที่ตั้งของเหมืองทองซาโดะคินซัง(Sado Kinzan Gold Mine) เหมืองทองคำและเหมืองเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เปิดดำเนินการมาตั้งแต่สมัยเอโดะเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับโชกุนโทคุกาวะ โดยทำต่อเนื่องมานานกว่า400 ปีจากค.ศ. 1601 มาสิ้นสุดลงเมื่อปี1989 นี่เอง เหมืองทองซาโดะ มีสายแร่ทองคำทอดตัวอยู่ในแนวตะวันออก-ตะวันตกกว้าง ประมาณ 3,000 เมตร ในแนวเหนือ-ใต้ ประมาณ 600 เมตร และลึกประมาณ 800 เมตร ปริมาณทองคำและเงินที่ผลิตได้นั้นว่ากันว่า ตลอดเวลาของการเปิดเหมืองสามารถผลิตทองคำได้กว่า 78 ตัน และเงินอีก 23 ตัน ปัจจุบันเหมืองทองซาโดะ ได้รับการขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นของแหล่งมรดกโลกยูเนสโกในปี 2010 ในรายการ "กลุ่มมรดกเหมืองซาโดะโดยเฉพาะทองคำ" และทางการญี่ปุ่นได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้ามาศึกษาการทำเหมืองทองคำ ตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึงสมัยเมจิ ในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ยังเต็มไปด้วยร่องรอยการทำเหมืองทั้งอุโมงค์เหมืองที่มีความยาวกว่า 400 กิโลเมตร สถานขุดเจาะ และโรงถลุงแร่เป็นต้น นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่เป็นครั้งแรกนิยมเที่ยวแบบ Soudaifukou Course คือการเดินไปในอุโมงค์ที่ขุดไว้สมัยเอโดะ เพื่อเที่ยวชมและศึกษาเครื่องมือเครื่องใช้ มีหุ่นคนงานจำลองขนาดเท่าคนจริงแสดงการทำงานในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังมีการท่องเที่ยวแบบ Douyukou Course ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นอุโมงค์ที่ใช้ในสมัยเมจิและยุคถัดมา มีการจัดแสดงรถไฟลากที่ใช้ในสมัยนั้น และกลไกการทำงาน การขุดทองภายในอุโมงค์ที่มีความยาวหลายร้อยเมตร หากต้องการสัมผัสประสบการณ์ตรงและน่าตื่นเต้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านอุโมงค์มืดซึ่งขุดโดยนักสำรวจแร่สมัยเอโดะ โดยใช้ไฟฉายส่องนำทางได้ แต่ถ้าต้องการความสะดวกสาย ก็สามารถโดยสารรถบัสไปพร้อมกับมัคคุเทศก์เพื่อไปชมการทำเหมืองแบบสมัยใหม่ ซึ่งการท่องเที่ยวแต่ละรูปแบบจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันระหว่าง 900 ถึง 3400 เยน