เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2538 มีข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์เรื่องการพบ ทองคำแท่งและสมบัติมีค่าจำนวนมหาศาล ที่ทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซุกซ่อนฝังไว้ ตามเขาตามถ้ำ ถึงขนาดมีคนระดับนายทหารใหญ่ออกมายืนยันเรื่องสมบัติกันหลายคน ทำให้มีการขุดค้นหาสมบัติที่บริเวณถ้ำลิเจีย โดยมีทั้งสำนักข่าวในเมืองไทยและ สำนักข่าวญี่ปุ่นมารอทำข่าวกันมากมาย จนกระทั่งวันที่ 24 พ.ย.2541 เจ้าหน้าที่เลขานุการประจำเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “เรื่องทองคำมหาศาลเชื่อว่าไม่มีจริง เพราะถ้าญี่ปุ่นมีทองคำมากมายขนาดนั้น เราคงไม่แพ้สงคราม เรื่องนี้เป็นความเชื่อของชาวบ้านที่เล่าๆ ต่อกันมา” เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นจากผู้สูงอายุคนหนึ่ง อ้างว่าทำธุรกิจส่งข้าวสารให้กับค่ายทหารของกองทัพญี่ปุ่น ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงทำให้รู้เห็นข้อมูลการขนทองคำของกองทัพญี่ปุ่น แต่ ณ เวลานั้น เขาไม่กล้าที่จะเปิดเผยความลับนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และ ไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวจะถูกกล่าวหาว่า กุเรื่องจึงได้เรื่องนี้เป็นความลับเรื่อยมา กระทั่งเวลาล่วงเลยไป เมื่ออายุมากขึ้นเกิดล้มป่วยใกล้เสียชีวิต จึงได้ตัดสินใจนำเรื่องนี้ไปบอกกับบุคคลผู้กว้างขวางท่านหนึ่ง เพื่อขอร้องให้ช่วยประสานงานกับหน่วยงานราชการของไทย เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องขุมทรัพย์ทองคำเพราะหากเป็นเรื่องจริง ประเทศชาติก็จะได้รับประโยชน์มหาศาล เพราะในช่วงนั้นประเทศไทยกำลังบอบช้ำ จากวิกฤตต้มยำกุ้ง หลังจากนั้นชายชราก็หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้และไม่มีใครพบอีกเลย นับจากนั้นเป็นต้นมา ตำนานขุมทรัพย์ทองคำถ้ำลิเจีย ก็ได้กลายเป็นข่าวครึกโครม และเกิดเสียงร่ำลือ ต่างๆ นานา จนแทบแยกไม่ออกว่าอะไรคือความจริง อะไรคือสิ่งลวง แต่การลักลอบเข้าไปขุดเจาะถ้ำลิเจียก็เกิดขึ้นเป็นระยะ จนถึงปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีดาวเทียม สำหรับการสำรวจทางด้านทรัพยากรธรณีมาฝใช้สำรวจ ถ้ำลิเจีย ว่า มีทองคำซุกซ่อนอยู่จริงหรือไม่นั้น แต่นักวิชาการหลายท่านก็ยืนยันว่าไม่น่าจะสามารถบอกได้ว่ามีทองคำหรือไม่ น่าจะทำได้เพียงบอกว่า ภูเขาลูกนั้นมีอะไรพิเศษอยู่หรือไม่ เช่น อาจจะบอกได้เพียงว่า ภูเขานั้นเป็นแบบไหน หรือเป็นภูเขาที่มีแต่หินล้วนๆ เป็นต้น เว้นแต่ว่าภูเขาจะมีทองคำอยู่จำนวนมหาศาลในภูเขาทั้งลูกนั้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ดาวเทียมก็อาจสามารถตรวจพบได้ อย่างไรก็ตาม หากที่ใดที่มีทองคำจำนวนมากมหาศาลจนถึงขั้นทำให้ดาวเทียมตรวจพบได้ ก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยว่า มันจะเกิดขึ้นได้จากน้ำมือมนุษย์ เพราะในความเป็นจริง มันจะเป็นเช่นนั้นได้ ต้องเกิดขึ้นจากธรรมชาติเท่านั้น
เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-tom/gold-rate/