การซื้อเครื่องประดับทองถ้าจะให้มั่นใจว่าได้ของแท้ก็ต้องซื้อจากร้านทองที่ได้มาตรฐาน แต่ถ้าหากได้มาจากแหล่งอื่นๆแล้วอยากทดสอบว่าเครื่องประดับทองที่ได้มาเป็นของแท้หรือไม่ก็สามารถทำได้ในเบื้องต้นด้วยวิธีต่างๆดังต่อไปนี้ การทดสอบด้วยแม่เหล็ก อาจใช้แม่เหล็กที่หาได้จากจากลำโพง หรือของเล่นต่างๆ เอาไปวางไว้ใกล้ๆ กับเครื่องประดับทอง แล้วสังเกตแรงดึงดูดที่เกิดขึ้น หากเป็นเครื่องประดับทองแท้ จะไม่เกิดแรงดึงดูดกับแม่เหล็กแต่ถ้าเป็นของปลอมทื่ทำจากเหล็กหรือสแตนเลส รวมทั้งโคบอล จะเกิดแรงดึงดูดกับแม่เหล็ก การทดสอบด้วยแม่เหล็กนี้เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลอย่างรวดเร็วเหมาะกับการทดสอบเครื่องประดับที่เป็นงานชุบ แต่ก็มีข้อควรระวังว่าหากมีการใช้เงินและทองแดงเป็นตัวชุบก็จะไม่เกิดแรงดึงดูดกับแม่เหล็กเหมือนกัน การทดสอบน้ำหนัก อาจใช้การชั่งด้วยมือโดยวางเครื่องประดับที่สงสัยในมือข้างหนึ่งแล้วมืออีกข้างหนึ่งวางเครื่องประดับที่เป็นของจริง ทำการชั่งเปรียบเทียบกัน ถ้าน้ำหนักแตกต่างกันก็แสดงว่าอาจเป็นของปลอมหรือเป็นการชุบตีโป่งก็ได้ การทดสอบสี เป็นการสังเกตสีของเครื่องประดับว่ามีความสม่ำเสมอหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณข้อต่อ สลัก ขอเกี่ยว และตัวเรือน หากต้องการทดสอบเพื่อความแน่ใจให้ทำการตะไบเบาๆ แล้วลองเปรียบเทียบสีดู ซึ่งการทดสอบสีนี้ทำให้เราสามารถจำแนกได้ว่าเป็นเครื่องประดับอะไรหรือมีความบริสุทธิ์มากน้อยแค่ไหน เช่นถ้ามีส่วนผสมของทองแดงมากสีของเครื่องประดับก็จะเข้มกว่าเครื่องประดับที่มีทองแดงผสมอยู่น้อยกว่าเป็นต้น ดูตราประทับกะรัตและความบริสุทธิ์ ซึ่งตราประทับนั้นสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าหากไม่มีตราประทับให้สันนิฐานไว้ก่อนเลยว่าเครื่องประดับทองนั้นอาจไม่ใช่ของจริง การประทับตรากะรัตและความบริสุทธิ์บนเครื่องประดับประเภทสร้อย ส่วนใหญ่จะประทับไว้บนตะขอเกี่ยว สลัก หรือข้อต่อ ถ้าเป็นพวกต่างหูจำเป็นต้องใช้แว่นขยายในการสังเกต ห่างเป็นแหวนหรือกำไลจะประทับไว้บริเวณใต้ท้องของแหวนและกำไลต่างๆ อย่างไรก็ตามการมีตราประทับกะรัตหรือความบริสุทธิ์บนเครื่องประดับไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าเครื่องประดับเหล่านั้นเป็นของจริงเพราะอาจมีการเลียนแบบได้แต่เครื่องประดับที่เป็นทอง จำเป็นต้องมีตราประทับกะรัตและความบริสุทธิ์ทุกชิ้น เพื่อง่ายต่อผู้บริโภคในการสังเกต ดูตราประทับผู้ผลิต ในส่วนของตราประทับผู้ผลิตก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะทำให้ทราบแหล่งที่มาและอาจทำให้ราคาของเครื่องประดับแตกต่างกันออกไป เช่น Italy 18K เป็นทองคำของอิตาลีก็จะทำให้ราคาของเครื่องประดับนั้นแพงขึ้นไปอีกเป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นการทดสอบเบื้องต้นแต่ถ้าให้มั่นใจควรให้ร้านทองตรวจสอบให้ ก็จะได้ผลที่ถูกต้องที่สุด แต่ทางที่ดีคือควรซื้อเครื่องประดับทองจากร้านทองที่ได้มาตรฐานเท่านั้น