ยอดน้ำค้างทองคำน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัมถูกอัญเชิญขึ้นไปประดิษฐานบนยอดพระธาตุพนม ร่วมกับกระดิ่งทองคำ 32 ใบและบัวทองคำ ในพิธีการบูรณะยอดพระธาตุในรอบ 40 ปี นับแต่องค์พระธาตุพนมองค์เดิมได้พังทลายลงมาทั้งองค์ เมื่อวันนี้ 7 กันยายน 2562 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีการประกอบพิธียกยอดน้ำค้างทองคำ กระดิ่งทองคำ และบัวทองคำ ขึ้นประดิษฐานบนยอดองค์พระธาตุ โดยพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระครูโสภณธรรมสโรช (ก้องเกียรติ จิตตวิโล) นำกล่าวถวายยอดน้ำค้างทองคำ กระดิ่งทองคำ และบัวทองคำ อัญเชิญยอดน้ำค้างทองคำและบริวารสู่แท่นยก คล้องพวงมาลัยมงคลบนยอดน้ำค้างทองคำแล้วประกอบพิธียกยอดน้ำค้างทองคำ สำหรับการบูรณะพระธาตุพนมในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ตั้งแต่องค์พระธาตุพนมองค์เดิมได้พังทลายลงทั้งองค์ โดยชาวพุทธทั่วประเทศรวมพลังศรัทธาร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ สร้างพระธาตุองค์ใหม่ครอบองค์เดิมโดยยังคงรักษารูปแบบเดิมเอาไว้จนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2522 ซึ่งมีขนาดฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร มีความสูงถึงยอดฉัตร รวม 57 เมตร ต่อมาในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระอุรังคธาตุ) ขึ้นบรรจุในองค์พระธาตุพนม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เสด็จทรงยกยอดฉัตรทองคำ ที่มีน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม หลังจากนั้นจากนั้นพุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศก็ได้เดินทางมากราบไหว้ บูชา พระธาตุพนมด้วยความเคารพศรัทธาดังเดิม กระทั่งเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ทางวัดได้ทำหนังสือถึงสำนักศิลปากรที่ 9 อุบลราชธานี ขออนุญาตหุ้มแผ่นทองคำที่ยอดเม็ดน้ำค้างขององค์พระธาตุพนมด้วยทองคำบริสุทธิ์ เพื่อป้องกันกรดที่เกิดจากสิ่งปฏิกูล เนื่องจากปัจจุบันยอดเม็ดน้ำค้างมีนกเกาะและได้ทำรังนอน ถ่ายรดสิ่งปฏิกูล ทำให้ส่วนยอดเม็ดน้ำค้างดำและด่าง รวมทั้งจะมีการทำความสะอาดภายนอกองค์พระธาตุพนม ทาสีใหม่ และปิดทองคำเปลว พิธีอัญเชิญยอดน้ำค้างทองคำและบริวารขึ้นสู่ยอดพระธาตุพนมในครั้งนี้มีพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก