สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ตลาดทองคำซบเซาลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้คนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น มีกำลังซื้อลดลงส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังร้านค้าทองคำขนาดเล็ก รวมถึงอาชีพที่เกี่ยวเนื่องคือช่างทำทอง ที่หลายคนต้องตกงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้อมูลจากสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ทำการสำรวจค่าจ้างของช่างทองส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับลวดลาย น้ำหนัก ความยากง่าย เช่น สร้อยข้อมือ สร้อยคอน้ำหนัก 1 บาท งานไม่ยาก ค่าจ้าง 100 บาทต่อเส้น ถ้างานยาก มีความประณีต ค่าจ้าง 200-300 บาทขึ้นไป หากมีออร์เดอร์จำนวนมากจะมีรายได้มาก แต่ในช่วงวิกฤติโควิดนี้ ช่างทำทองจำนวนมากได้รับผลกระทบจาก โรงงานทำทองขนาดกลางขนาดเล็กที่ทยอยปิดตัวลง ตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิดรอบแรก รวมถึงปัจจัยจากภาวะราคาทองผันผวน มีทั้งพุ่งขึ้และราคาร่วงลงไม่หยุด เกิดกระแสแห่ขายทองคำแรงซื้อหายเกือบทั้งหมดโดยเฉพาะทองรูปพรรณ เนื่องจากช่างทำทองมีรายได้จากส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์กับหัวหน้างาน ซึ่งจะมีรายได้ก็ต่อเมื่อมีคำสั่งผลิตเท่านั้น อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ หนึ่งในอุตสาหกรรมส่งออกหลักที่ทำรายได้เข้าประเทศมหาศาล กำลังเผชิญสถานการณ์ยากลำบาก จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกำลังซื้อทั่วโลกหดหาย ตลาดทองคำรูปพรรณค่อนข้างซบเซา จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวจากโควิด-19 ทั้งระลอกเดิมและระลอกใหม่ ส่งผลให้กำลังซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยหายไป ประกอบกับสถานการณ์ตลาดทองคำผันผวน ขึ้นแรงและร่วงลงแรง จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ระบุว่าธุรกิจทองคำจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ หลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา กำลังซื้อลดลงจากปีก่อน ไม่มีคนซื้อ มีแต่นำทองมาขาย ส่งผลต่อเนื่องไปยังร้านค้าทองคำขนาดเล็ก รวมถึงอาชีพช่างทำทอง ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 รอบแรก ส่งผลให้โรงงานผลิตทองคำหลายแห่งปิดตัวลง ส่งผลให้ช่างทองตกงานเป็นจำนวนมาก จากจำนวนช่างทำทองในระบบรวมกับกลุ่มจิวเวลรี่ที่มีประมาณ 2 แสนคน ประเมินว่าช่างทองตกงานไปแล้วมากกว่า 50% ที่มา :กรุงเพธุรกิจ